Last Updated on 11 กรกฎาคม 2023 by puechkaset
ผักหนาม เป็นผักป่าที่พบได้ตามริมลำน้ำ ลำห้วย นิยมนำก้านใบอ่อน และใบอ่อน รวมถึงดอกอ่อนมาประกอบอาหาร ทั้งลวกจิ้มน้ำพริก ชุบแป้งทอด แกงเลียง แกงอ่อม หรืออื่นๆ มีความกรอบ และอมหวาน ปัจจุบัน พบเริ่มปลูกเพื่อรับประทานในครัวเรือน และการจำหน่ายมากขึ้น
อนุกรมวิธาน
• Family (วงศ์) : ARACEAE
• ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lasia spinosa Thw.
• ชื่อท้องถิ่น : ผักหนาม
ถิ่นกำเนิด และการแพร่กระจาย
ผักหนามเป็นพืชท้องถิ่นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทยพบได้ทุกภาค พบได้เฉพาะตามบริเวณที่สภาพชื้น มีน้ำขัง โดยเฉพาะบริเวณริมหนองน้ำ แม่น้ำ ลำห้วย ที่มีน้ำตลอดปี
ที่มา : [1]
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น
ลำต้นผักหนามมีลักษณะเป็นเหง้าทรงกลม และสั้น
ใบ
ใบผักหนามเป็นใบประกอบ แตกออกเวียนสลับตรงข้ามกัน ประกอบด้วยก้านใบยาว 20-40 เซนติเมตร ผิวก้านใบมีปุ่มหนามแหลมกระจายทั่ว ก้านใบอ่อนมีสีเขียวอ่อน ก้านใบแก่มีสีเขียวเข้ม ใบย่อยแต่ละใบมีรูปหอกแตกสลับตรงข้ามกัน 7-9 ใบ แผ่นใบ และขอบใบเรียบ ส่วนใบอ่อนจะเป็นริ้วหยักย่น นิยมนำมาประกอบอาหาร
ดอก
ผักหนามออกดอกเป็นช่อ มีก้านดอกกลมสีเขียวสด ยาวประมาณ 30-50 เซนติเมตร มีหนามปกคลุมทั่ว ส่วนปลายเป็นตัวดอกมีลักษณะเป็นแท่งสั้น ปลายมน มีกาบหุ้มช่อดอกที่มีลักษณะคล้ายดอกหน้าวัว สีน้ำตาลรองด้านล่าง และมีจานรองดอกสีม่วงแดงบิดเป็นเกลียว ส่วนปลายเรียวแหลม คล้ายสว่าน เมื่อแก่มีสีม่วงคล้ำ ส่วนตัวช่อดอกประกอบด้วยดอกย่อยอัดแน่นจำนวนมาก มีเกสรเป็นแท่งสีขาวอยู่ตรงกลาง
ผล
ผลผักหนาม เป็นผลสด ติดเรียงซ้อนกันที่ปลายช่อดอก ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อสุกสีเหลืองอมแดง เปลือกผลมีตะบุ่มหนาม
คุณค่าทางโภชนาการ (100 กรัม)
คุณค่าทางโภชนาการ |
ปริมาณ |
โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต พลังงาน เส้นใย เถ้า แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามิน A วิตามินบี ไนอาซีน วิตามิน C |
2.10 กรัม 0.20 กรัม 2 กรัม 18.99 กิโลแคลลอรี่ 0.80 กรัม 0.80 กรัม 14 มิลลิกรัม 11 มิลลิกรัม 0.9 มิลลิกรัม 6,383 I.U. 1 0.92 มิลลิกรัม 0.91 มิลลิกรัม 23 มิลลิกรัม |
สารสำคัญที่พบ
– lyoniresinol
– p-hydroxy benzoic acid
– 4-methoxyphenethyl alcohol
– p-hydroxy benzaldehyde
– isovanillic acid
– vitexin2”-o-β-D-glucopyranoside
– 3’-methyl quercetin-3-o-α-L-rhamnopyranosyl-(1-6)- β-D- glucopyranoside
– vitexin
– meridinol
นอกจากนั้น ยังพบรายงานสารพิษที่พบในผักหนาม คือ cyanogenic glycoside เมื่อถูกย่อยจะได้สาร hydocyanic acid หรือ prussic acid (HZN) เป็นสารที่มีความเป็นพิษต่อระบบเลือด ทำให้เซลล์เสียหายหรือตายจากการขาดออกซิเจน กล้ามเนื้อทำงานผิดปกติ กล้ามเนื้ออ่อนแรง แน่นหน้าอก หายใจลำบาก มีอาการชัก และหมดสติ ทั้งนี้ สารนี้ สามารถสลายตัวได้เมื่อสัมผัสความร้อน ดังนั้น จึงต้องทำให้สุกเสียก่อนรับประทาน
ที่มา : [1], [2] อ้างถึงในเอกสารหลายฉบับ
สรรพคุณ
เหง้า และราก
– บรรเทาอาการไอ ช่วยขับเสมหะ
– แก้คันเนื่องจากพิษหัด อีสุกอีใส
– ช่วยขับพิษ
ก้านใบ และใบ
– ช่วยเจริญอาหาร
ผักหนามมีสารออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน (Phytohormone) โดยมีสารคล้ายฮอร์โมนเพศชาย (Phytotestosterone) และฮอร์โมนเพศหญิง(Phytoestrogen)
ปริมาณฮอร์โมน Testosterone และ Estradiol ในผักหนาม
ส่วนของผักหนาม |
Testosterone (ng/g dry weight) |
Estradiol (pg/g dry weight) |
เหง้า |
0.19 |
<1.65 |
ก้านใบและใบ |
0.15 |
10.76 |
ราก |
0.92 |
14.55 |
ที่มา : [2] อ้างถึงในเอกสารหลายฉบับ
การใช้ประโยชน์
1. ใช้ประกอบอาหาร
ใบอ่อนที่เป็นส่วนของก้านใบ และแผ่นใบ รวมถึงดอกอ่อน นิยมเก็บมาประกอบอาหารในหลายเมนู อาทิ เป็น ผักลวก ผักนึ่ง ผักชุบแป้งทอด กินกับน้ำพริก ใส่ในแกงหน่อไม้ แกงอ่อม แกงเลียง แกงจืด ผัดผัก และแกงส้ม เป็นต้น
ทั้งนี้ การรับประทานสด ไม่แนะนำ และชาวบ้านจะไม่รับประทานกัน เนื่องจากผักหนามในรูปสดจะมีสารพิษ cyanogenic glycoside ตามที่กล่าวข้างต้น
![](https://puechkaset.com/wp-content/uploads/2023/07/แกงส้มผักหนาม.jpg)
2. ไม้ประดับ
ในกลุ่มผู้นิยมพันธุ์ไม้แปลก ไม้มงคลได้นำต้นผักหนามมาปลูกไว้ในกระถางตั้งประดับ หรือ ปลูกลงแปลงจัดสวนภายในบ้าน
ปัจจุบัน ในบางจังหวัดเริ่มนำต้นพันธุ์มาปลูกไว้รับประทานในครัวเรือน และบางแห่งมีการปลูกเพื่อการค้าแล้ว อาทิ พื้นที่อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดยโสธร หนองบัวลำภู สุโขทัย ตาก กาญจนบุรี และจันทบุรี โดยให้ผลผลิตต่อไร่ประมาณ 250- 2,000 กิโลกรัม ขายในราคา 5 – 40 บาท/กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับพื้นที่
ที่มา : [2]
เอกสารอ้างอิง
[1] การศึกษาฤทธิ์เบื้องต้นในการต้านอนุมูลอิสระ
การยับยั้งแบคทีเรียและการยับยั้งเซลล์มะเร็งของพืชสมุนไพรพื้นบ้าน.
[2] ผลของการเสริมผักหนาม(Lasia spinosa Thw.)ในอาหาร
ต่อสมรรถภาพการผลิตของไก่ไข่ระยะใกล้ปลดระวาง.