บานชื่น/ดอกบานชื่น และการปลูกบานชื่น

Last Updated on 24 สิงหาคม 2016 by puechkaset

บานชื่น (Zinnia) จัดเป็นไม้ดอกประดับที่นิยมปลูกมากชนิดหนึ่ง โดยเฉพาะในแถบประเทศอเมริกา เนื่องจากดอกมีสีสันสวยงาม มีหลากหลายสี ปลูกง่าย ไม่ต้องดูแลมาก เติบโต และให้ดอกเร็ว

• ชื่อวิทยาศาสตร์ : Zinnia elegans
• วงศ์ : Compositae
• ชื่อสามัญ :
– Zinnia
– Youth
– Old Age

บานชื่น เป็นไม้พื้นเมืองของเม็กซิโก พบได้บริเวณเชิงเขาในเม็กซิโก และอเมริกากลาง มีดอกขนาดเล็ก กลีบดอกชั้นเดียว สีม่วงซีด ชาวเม็กซิกันชอบเด็ดมาติดหมวก และเป็นไม้ดอกที่นิยมปลูกมาก 1 ใน 3 อันดับแรกในอเมริกา ได้แก่ ดาวเรือง พิทูเนีย และบานชื่น

ปัจจุบัน บานชื่นถูกพัฒนาสายพันธุ์ให้มีดอกทุกสี ยกเว้นสีฟ้า ขนาดดอกมีตั้งแต่เท่ากระดุมเสื้อจนถึงเท่าจานรองถ้วยนํ้าชา มีรูปร่างดอกแตกต่างกันตามสายพันธุ์

zinnia

บานชื่นพันธุ์ดั้งเดิมถูกตั้ง ชื่อว่า Youth and Old Age เนื่องจากมีการออกดอกไม่พร้อมกัน ดอกที่บานก่อนจะเหี่ยวไป ดอกที่บานใหม่จะบานปนกับดอกเหี่ยว ส่วนพันธุ์ในปัจจุบันมีการบานของดอกพร้อมกัน

ประวัติบานชื่น
บานชื่นมีถิ่นกำเนิดในแถบประเทศทางตะวันออกเฉียงใต้ของอเมริกากลางถึง อเมริกาใต้ คำว่า Zinnia เป็นชื่อเรียกของบานชื่นที่ถูกตั้งในศตวรรษที่ 18 เพื่อเป็นเกียรติแก่ ดร. โจฮานน์ กอตต์ฟรีด ซินน์ (Dr.Johann Gottfried Zinn) นักพฤกษศาสตร์ชาวเยอรมัน ที่เป็นคนแรกที่นำเมล็ดบานชื่นจากอเมริกาไปปลูกยุโรป

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
1. ลำต้น
บานชื่นจัดเป็นไม้ดอกฤดูเดียว ลำต้นสูง 18-35 ซม. ลำต้นมีขนแข็งสั้นปกคลุม ลำต้นมีสีเขียว มีลำต้นเดียว ไม่แตกกิ่ง ไม่มีแก่น และกลวง เปราะหักง่าย

2. ใบ
ใบเป็นแบบโอเวท (Ovate) ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ใบติดกับลำ ต้น เส้นใบเป็นแบบปาล์เมทลี่(Palmately) แยกออกจากฐานของใบ มี 5 แฉก การจัดเรียงของใบเป็นแบบตรงข้าม ดอกเป็นแบบเฮท(Head) มีหลายสี

zinniz1

3. ดอกบานชื่น
ดอกบานชื่น ออกเป็นช่อกระจุก (ดอกอยู่ตรงกลางกลีบดอก) หรืออาจเรียกตามลักษณะที่มองเห็นเป็นดอกเดียว ดอกมี 2 แบบ คือ
– ดอกซ้อน ประกอบด้วยกลีบดอกหลายกลีบ เรียงซ้อนกันแน่นตามความสูง แต่ละกลีบมีขนาดไม่เท่ากัน กลีบด้านล่างมีขนาดใหญ่ ขนานกับพื้น กลีบด้านบนมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ และค่อยๆตั้งฉากกับพื้น

zinnia2

– ดอกลา ประกอบด้วยกลีบดอกเรียงซ้อนกันเพียง 1-3 ชั้น แต่ละกลีบมีขนาดเท่ากัน และทิ้งตั้งฉากกับเกสรดอกขนานกับพื้น

zinnia4

ดอกจะออกได้ประมาณ 2-3 เดือน หลังการปลูก

4. เมล็ด
เมล็ดมีสีดำขนาดเล็ก เรียวยาว ประมาณ 2 ซม. ประกอบด้วยก้านเมล็ดสีน้ำตาล ยาวประมาณ 1 ซม. และตัวเมล็ด ยาวประมาณ 1 ซม. ดอกใหญ่มีน้ำหนักเมล็ดหนึ่งกรัม จะมีเมล็ดประมาณ 80-120 เมล็ด และส่วนดอกเล็กจะมีเมล็ดประมาณ 200 ในน้ำหนักที่เท่ากัน

zinnia3

ประโยชน์ของบานชื่น
• ใช้ปลูกเป็นไม้ดอกประดับตามหน้าบ้าน ปลูกจัดสวน และปลูกเป็นไม้กระถาง
• ใช้ปลูกเป็นไม้มงคลที่เชื่อว่าจะนำความร่มเย็นเป็นสุขมาให้แก่ครอบครัว เนื่องจากคำว่า บานชื่น เป็นคำมงคลที่แสดงถึงความเบิกบานมีความสุข
• ดอกบานชื่น นำมาตากแห้ง และบดเป็นผงสำหรับชงเป็นชาดื่ม
• ดอกบานชื่น นำมาสกัดสีย้อมผ้า
• ดอกบานชื่น นำมาบดเป็นผงสำหรับเป็นสีผสมอาหาร
• ดอกบานชื่น นำมาบดละลายน้ำใช้เป็นสีระบายภาพ

การปลูกบานชื่น
บานชื่นสามารถเจริญเติบโตได้ดีในที่โล่งแจ้ง เป็นพืชที่ชอบแสง สามารถปลูกได้ตลอดฤดู และทนต่อทุกสภาพได้ดี แต่ทั่วไปชอบดินร่วนปนทราย ดินมีอินทรีย์วัตถุสูง ดินมีความชื้น ไม่ชอบสภาพดินแฉะ มีน้ำขัง

การปลูกบานชื่น
การ ปลูกบานชื่นมีทั้งการปลูกในแปลง และการปลูกในกระถาง ซึ่งจะใช้วิธีการปลูกด้วยเมล็ดเท่านั้น แต่โดยทั่วไปมักนิยมปลูกในกระถาง เนื่องจาก เป็นไม้ดอกที่โตเร็ว ลำต้นไม่ใหญ่สูง มีอายุสั้น ให้ดอกใหญ่ สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย แต่ก็พบปลูกในแปลงบ้างในลักษณะเพื่อประดับในโอกาสต่างๆ

การปลูกบานชื่นในกระถาง
การเตรียมดิน
นิยมเตรียมดินด้วยการผสมดินกับขี้เถ้าแกลบ อัตราส่วนดินกับขี้เถ้าที่ 1:1 หรือ 1:2 เนื่องจากจะให้น้ำหนักเบา และกกระถางที่ใช้จะเป็นกระถางพลาสติกขนาดไม่เกิน 10 นิ้ว ขึ้นอยู่กับปริมาณต้นที่ต้องการ

การปลูก
การปลูกจะใช้วิธีการหยอดเมล็ดลงในกระถาง หยอดเมล็ดลึก 2-3 ซม. กระถางละ 4-10 เมล็ด ขึ้นอยู่กับขนาดกระถาง หลังจากนั้น รดน้ำทุกวัน วันละ 1 ครั้ง จนต้นเติบโต และออกดอก ซึ่งระยะหลังอาจรดน้ำเีพียง 2 วัน/ครั้ง