บอนเต่า บอนป่า ใช้ทำกับข้าว ปลูกเป็นไม้ประดับ และสรรพคุณเด่น

Last Updated on 26 พฤษภาคม 2023 by puechkaset

บอนเต่า เป็นพืชล้มลุก มีลักษณะคล้ายบอนชนิดอื่นๆ แต่มีขนาดเล็กกว่า พบได้ในป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง และพบได้ในทุกภาค นิยมนำใบอ่อน และช่อดอกอ่อนมาประกอบอาหาร อาทิ แกงอ่อม แกงเปอะ ใส่แกงหน่อไม้ ลวกจิ้มน้ำพริก ซุปบอนเต่า เป็นต้น รวมถึงนิยมปลูกเป็นไม้ประดับเช่นกัน

อนุกรมวิธาน
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hapaline benthamiana Schott.
วงศ์ : Araceae

การแพร่กระจาย และแหล่งที่พบ
บอนเต่าเป็นพืชท้องถิ่นในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบได้ในประเทศไทย พม่า ลาว และเวียดนาม โดยในประเทศไทยพบแทบทุกภาค พบได้มากตามพื้นที่เชิงเขา ที่ลุ่มที่ดอน และลำห้วย

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น
บอนเต่า เป็นไม้ล้มลุก มีหัวใต้ดิน หัวมีลักษณะกลม เปลือกหุ้มสีดำอมเทา

ใบ
ใบเป็นใบเดี่ยว แตกแทงโผล่จากหัวขึ้นบนดิน สูงประมาณ 15-30 เซนติเมตร ประกอบด้วยก้านใบเรียวยาว ตัวใบมีรูปหัวใจ โคนใบเว้า ปลายใบแหลม ขอบใบหยัก แผ่นใบเรียบ สีเขียวสด หรือ สีเขียวเข้ม หรือ มีลายประสีขาว

ดอก
ดอกบอนเต่าออกดอกเป็นช่อ แทงออกจากกลางหัวโผล่พ้นดิน สูง 10-30 เซนติเมตร ประกอบด้วยก้านดอกทรงกลมสีขาวอมเขียว ส่วนปลายเป็นตัวดอก มีลักษณะเป็นแท่ง ทรงกระบอกยาว ปลายช่อแหลม ประกอบด้วยดอกขนาดเล็กจำนวนมาก

ผล และเมล็ด
มักไม่ติดผล

ประโยชน์
บอนเต่า เป็นพืชล้มลุก ใบเหี่ยวแห้งในฤดูแล้ง แล้วแตกต้นใหม่ในต้นฤดูฝน ซึ่งจะเป็นส่วนยอดและดอก
1. นิยมนำมาทำเป็นอาหาร สามารถรับประทานได้ทุกส่วน โดยจะใช้ใบอ่อน หรือ ช่อดอกอ่อน ที่เพิ่งแทงโผล่พ้นดิน สามารถหาเก็บได้ในป่าช่วงต้นฤดูฝน
2. ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับเหมือนกับบอนชนิดอื่นๆ

Hapaline benthamiana Schott rare once a year Thai ingredients from the Jungle

สารสำคัญที่พบ
จันทรา จันทราภิรมย์ ได้ศึกษาองค์ประกอบทางเคมีและฤทธิ์การยับยั้งเอนไซม์อะซิติลโคลีนเอสเทอเรสจากส่วนเหนือดินของพืชบอนเต่า โดยพบองค์ประกอบของสารจำนวน 58 ชนิด จำแนกเป็นสารประจุบวกจำนวน 17ชนิด สารประจุลบจำนวน 46 ชนิด

การศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชศาสตร์ พบว่า สารสกัดสามารถออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์อะซิติลโคลีนเอสเทอเรส และฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระได้ดี

โดยพบว่า cucurbitacin I 2-glucoside และ gingerglycolipid C สามารถออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์อะซิติลโคลีนเอสเทอเรสได้ดีที่สุด ส่วนฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ พบว่า p-coumaroylquinic acid, genistic acid, 6-c-fucosylluteolin และ protocatechuic acid สามารถออกฤทธิ์ได้ดีที่สุด

องค์ประกอบทางเคมีสามารถแบ่งกลุ่มได้ ดังนี้
1. amino acid,
2. phenolic acid
3. flavonoid
4. fatty acid
5. carboxylic acid
6. Steroid
7. monosaccharide/Disaccharide derivative

ที่มา : [1]

สรรพคุณ
ส่วนหัว
– ต้มน้ำดื่ม ใช้เป็นยาบำรุงเลือด และสมอง
– ใช้ฝนหรือบดทาแก้พิษแมลงกัดต่อย

ที่มา : [1], [2]

วิธีปลูก
บอนเต่าตามธรรมชาติจะขยายพันธุ์ด้วยหัว ซึ่งหัวแก่จะแตกหัวใหม่หรือหัวอ่อนออกเรื่อยๆ หากต้องการปลูกหรือขยายพันธุ์จะต้องใช้วิธีขุดหัวมาปลูกต่อเป็นวิธีหลัก

เอกสารอ้างอิง
[1] จันทรา จันทราภิรมย์.2563. ได้ศึกษาองค์ประกอบทางเคมีและฤทธิ์การยับยั้งเอนไซม์อะซิติล
โคลีนเอสเทอเรสจากส่วนเหนือดินของพืชบอนเต่า.
[2] บอนเต่า. ออนไลน์. สมุนไพรมหิดล/คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล. สืบค้นเมื่อ 24 พฤษภาคม 2556. เข้าถึงได้ที่ : https://www.matichonweekly.com/column/article_140556/