ผักชีฝรั่ง สรรพคุณ และการปลูกผักชีฝรั่ง

Last Updated on 24 ธันวาคม 2016 by puechkaset

ผักชีฝรั่ง (Stink weed, Eryngium) จัดเป็นพืชผัก และสมุนไพรที่นิยมนำมาปรุงอาหาร โดยเฉพาะเมนูยำ ต้มยำ ซุปหน่อไม้ ลาบ เป็นต้น เนื่องด้วยใบมีลักษณะรสจืด แต่มีกลิ่นหอมแรง ทำให้ปรับปรุงกลิ่นอาหารให้ชวนรับประทานมากขึ้น

• วงศ์ : Umbelliferae
• ชื่อวิทยาศาสตร์ : Eryngium foetidum Linn.
• ชื่อท้องถิ่น :
ภาคกลาง และทั่วไป
– ผักชีฝรั่ง
– ผักชีใบเลื่อย
ภาคเหนือ
– ผักจี
– ผักชีดอย
– ผักหอมเทศ
– หอมป้อมกุลา
– แมะและเด๊าะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)
ภาคอีสาน
– ผักหอมเป
– ผักหอมเทศ
– ผักหอมห่อ
• ถิ่นกำเนิด : เป็นผักพื้นเมืองของทวีปอเมริกาใต้

ในประเทสไทยมีการปลูกมากในพื้นที่ภาคกลาง เช่น นครสวรรค์ อยุธยา นครปฐม ราชบุรี และมีการปลูกทั่วไปในทุกจังหวัดของทุกภาค ทั้งขายใบสด และเมล็ดพันธุ์ โดยเมล็ดพันธุ์ผักชีฝรั่งจากแปลงปลูกมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 2,500 บาท หรือมากกว่า ส่วนผู้ปลูกที่ซื้อเมล็ดจากท้องตลาดอาจมีราคาเมล็ดสูงถึง 3,500-4,000 บาท ส่วนใบสดมีราคากิโลกรัมละ 20-50 บาท ขึ้นอยู่กับแหล่ง และฤดูกาล โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว และฤดูฝนจะมีราคาสูงมาก

Eryngium

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น และราก
ลำต้นเป็นลำต้นหรือเหง้าใต้ดิน และอาจอยู่เหนือดินเล็กน้อย มีลักษณะเป็นกระเปราะกลมรีอยู่เหนือราก ส่วนรากเป็นระบบรากแก้ว และมีรากแขนง และรากฝอยแตกย่อยออกรอบๆ

Eryngium3

ใบ
ใบแทงออกจากเหง้าที่เป็นลำต้น เรียงเวียนรอบเหง้า แน่นเป็นกระจุก ก้านใบมีลักษณะสั้น  0.5-1 เซนติเมตร ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ขอบขนวน มีลักษณะยาวรี ใบกว้าง 1-4 เซนติเมตร ยาว 5-35 เซนติเมตร ปลายใบแหลม ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย และมีหนาวเล็กที่ปลายฟันเลื่อย ลักษณะใบแข็งกระด้าง ใบอ่อนมีสีเขียวสด เมื่อแก่มีสีเขียวเข้ม

ดอก
ดอกแทงออกตรงกลางของลำต้น มีก้านดอกแข็งยาว 10-30 เซนติเมตร มีใบประดับที่ก้านดอกรูปหอก ถัดมาเป็นดอกออกเป็นช่อ มีกลีบเลี้ยงสีเขียว 5 กลีบ รูปขนานแกมรูปไข่ ยาวประมาณ 0.5-0.75 เซนติเมตร และมีกลีบดอก 5-7 กลีบ สีขาว ดอกมีดอกย่อยจำนวนมาก เป็นดอกสมบูรณ์เพศ มีเกสรตัวผู้ 5 อัน ก้านชูอับเรณูสีขาว ส่วนเกสรเพศเมียมีลักษณะเป็นเส้นด้าย 2 เส้น ไม่มีฐานเกสร ดอกเริ่มบานหลังปลูกที่ 70-75 วัน และเมล็ดเริ่มแก่ที่ 40-50 หลังดอกบาน

Eryngium2

ผล และเมล็ด
ผลมีขนาด 1.5×0.75 มิลลิเมตร เมื่อแก่ และแห้งจะปริแตกออกเป็น 2 ซีก แต่ละซีกจะมีเมล็ดด้านในจำนวนมาก

คุณค่าทางอาหารผักชีฝรั่ง
– พลังงาน : 32 กิโลแคลอรี่
– เส้นใย : 1.7 กรัม
– แคลเซียม : 21 มิลลิกรัม
– เหล็ก : 2.9 มิลลิกรัม
– เบต้าแคโรทีน : 876.12 RE
– วิตามินบี 1 : 0.31 มิลลิกรัม
– วิตามินบี 2 : 0.21 มิลลิกรัม
– ไนอาซีน : 0.7 มิลลิกรัม
– วิตามินซี : 38 มิลลิกรัม

ที่มา : มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย, 2541.(1)

สรรพคุณผักชีฝรั่ง
1. ลำต้น และราก
ลำต้นที่เป็นเหง้านำมาบดใช้ทาบริเวณแมลงกัดต่อย ช่วยลดอาการปวดได้ และรับประทานสดเป็นยาขับปัสสาวะ ส่วนรากนำมาต้มรับประทานแก้ไข้เป็นหวัด ช่วยขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ รวมถึงประโยชน์หลักสำหรับปรุงอาหารเพื่อปรับปรุงกลิ่นรสอาหาร

2. ใบ
ใบใช้บดนำมาทารักษาแผล แผลติดเชื้อ แผลอักเสบ รับประทานสดเป็นยาขับปัสสาวะ และนำมาเคี้ยวใช้ระงับกลิ่นปาก รับประทานเป็นยาระบาย แก้ไข้ รักษาหวัด ช่วยเจริญอาหาร รวมถึุงการใช้ประโยชน์หลักสำหรับปรุงอาหารเพื่อดับกลิ่นคาวทำให้อาหารน่ารับประทาน

ที่มา: ปรับปรุงเพิ่มเติมจาก วราภรณ์ แก้วเที่ยง, 2554.(2)

Honneychurch (1980)(3) กล่าวถึงผักชีฝรั่งว่า ใบนำมาต้มน้ำดื่มหรือรับประทานสดสำหรับเป็นยารักษาอาการไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ไข่มาเลเรีย ลดอาการหนาว แก้อาเจียน อาการท้องร่วง ท้องผูก รักษาอาการกระตุกในเด็ก รักษาโรคเบาหวาน โรคปอดบวม โรคกระเพาะอาหาร ส่วนรากรักษาพิษจากแมงป่อง

การปลูกผักชีฝรั่ง
ผักชีฝรั่งนิยมปลูกด้วยการหว่านเมล็ด และย้ายลงแปลงใหญ่ มีวิธีปลูก ดังนี้
การเตรียมแปลง
การปลูกผักชีฝรั่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องยกร่องแปลงปลูกให้สูงสำหรับพื้นที่น้ำท่วมง่ายเพื่อป้องกันโรครากเน่า ส่วนพื้นที่ดอนก็ควรยกร่องแปลงเช่นกันหรือเพียงไถทำร่องด้านข้างแปลงก็เพียงพอ

การเตรียมแปลงก่อนปลูกควรทำการไถดะด้วยผานใหญ่ ลึกประมาณ 30 เซนติเมตร และตากดินให้แห้ง 7-10 วัน พร้อมกำจัดวัชพืช หลังจากนั้น หว่านปุ๋ยคอกหรือมูลสัตว์ต่างๆ อัตรา 3-5 ตัน/ไร่ ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 50 กิโลกรัม/ไร่ หากดินเปรี้ยวควรหว่านโรยด้วยปูนขาวร่วมด้วย หลังจานั้น ไถพรวนอีกครั้งด้วยผานเล็กกว่า พร้อมตากดินอีก 3-5 วัน หลังจากนั้นไถยกร่องกว้างประมาณ 1.5-2 เมตร ส่วนความยาวตามความเหมาะสมของพื้นที่

การสร้างโรงเรือนหรือมุงผ้า
เนื่องจากผักชีฝรั่งเป็นพืชที่ไม่ชอบแสงแดดจัด โดยเฉพาะการปลูกในฤดูร้อน ซึ่งอาจมีโอกาสเกิดโรคใบไหม้ได้ง่าย ดังนั้น จึงควรสร้างโรงเรือนทุกครั้งก่อนปลูก สำหรับโรงเรือนที่ว่าอาจใช้เพียงไม้ค้ำยัน เช่น ไม้ไผ่ ไม้ยูคา ปักเสารอบแปลงปลูก ระยะห่าง 3-5 เมตร ด้านบนคลุมด้วยผ้าสะแลนสีดำหรือสีเขียว ผูกยัดกับเสาไม้ด้วยลวดให้แน่น

Eryngium1

การหว่านเมล็ดพันธุ์
เมล็ดผักชีฝรั่งที่ใช้ปลูกจะใช้ประมาณ 3 กิโลกรัม/ไร่ โดยหว่านหลังเตรียมแปลงหรือทำโรงเรือนเสร็จ หลังจากนั้นใช้คราดซี่เล็กคราดเกลี่ยหน้าดินเพื่อกลบเมล็ด 1 รอบ หรืออาจใช้น้ำรดได้เลยโดยไม่ต้องเกลี่ยกลบหน้าดิน

การให้น้ำ
การให้น้ำครั้งแรกจะให้หลังการหว่านเมล็ดเสร็จ และหลังจากนั้นจะให้น้ำทุกวัน วันละครั้ง ในปริมาณที่หน้าดินชุ่มด้วยเครื่องให้น้ำหรือระบบสเปรย์ เมื่อปลูกได้ 10-15 วันจะเริ่มเห็นเมล็ดเริ่มงอก

การใส่ปุ๋ย
ปุ๋ยที่ใส่ควรเป็นปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยหมักเพื่อรักษาสภาพดิน ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์เคมีสูตร 12-4-4 หรือปุ๋ยเคมีสูตร 16-8-8

การย้ายต้นปลูก
เมื่อต้นผักชีอายุได้ประมาณ 10-20 วัน สำหรับแปลงปลูกหรือบางพื้นที่ในแปลงปลูกที่มีต้นถี่มาก ควรทำการย้ายต้นผักชีแบ่งออกปลูกในปลงใหม่เพื่อให้มีระยะต้นในแปลงที่เหมาะสม

การเก็บผลผลิต
ผักชีฝรั่งสามารถเก็บจำหน่ายได้เมื่ออายุประมาณ 45-60 วัน ด้วยการถอนทั่งต้น แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาดก่อนบรรจุถุงส่งจำหน่าย

โรค และแมลง
1. โรคใบไม้ มักเกิดในช่วงฤดูร้อน โดยจะพบอาการคล้ายรอยลวกสีเหลืองถึงสีน้ำตาลจากปลายใบลงมา ป้องกันโดยใช้เบนเลท อัตรา 6-12 กรัม/น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่น
2. โรคโคนเน่า มักเกิดในฤดูฝน สังเกตุได้จากใบ และลำต้นมีลักษณะเหี่ยว เมื่อถอนต้นจะพบเหง้าหรือโคนต้นเกิดการเน่า ป้องกันโดยใช้แอนติโกร 2.1% ปริมาณ 30-60 กรัม/น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่น และควรป้องกันตั้งแต่ระยะเตรียมแปลงปลูกร่วมด้วย คือ การยกแปลงสูง และมีร่องระบายน้ำโดยรอบ
3. หนอนกินใบ เป็นหนอนผีเสื้อกลางคืน มักระบาดในช่วงฤดูฝน ป้องกันได้โดยใช้สารเคมีกำจัดหนอนผีเสื้อฉีดพ่น
4. หอยทาก ซึ่งมักพบระบาดในบางพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ปลูกในที่ล่มหรือแปลงปลูกใกล้กับแหล่งหญ้าหรือป่ารก

เอกสารอ้างอิง
untitled