บอระเพ็ด ประโยชน์ และสรรพคุณบอระเพ็ด

Last Updated on 18 ตุลาคม 2016 by puechkaset

บอระเพ็ด (Heart leaved moonseed) เป็นไม้เถาให้รสขมจัดที่นิยมใช้เป็นส่วนผสมของตำรับยารักษาโรคทั้งในคน และสัตว์ อาทิ ยารักษาโรคเบาหวาน แก้อาการอักเสบ และลดไข้ เป็นต้น

อนุกรมวิธาน
• อันดับ : Ranunculales
• วงศ์ : Menispermaceae
• สกุล : Tinospora
• ถิ่นกำเนิด : เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

• ชื่อวิทยาศาสตร์ : Tinospora crispa Miers ex Hook.f.et Thoms.
• ชื่อสามัญ : Heart leaved moonseed
• ชื่อท้องถิ่น :
ภาคกลาง
– บอระเพ็ด (ทุกภาค)
– เถาหัวด้วน
ภาคเหนือ
– เครือเขาฮอ
– จุ่งจง
– จุ่งจะลิง
ภาคอีสาน
– เจตมูลหนาม
– เจตมูลยาน
– หางหนู
ภาคใต้
– เจ็ดหมุนปลูก

การแพร่กระจาย
บอระเพ็ด เป็นพืชเถาที่ได้ในทุกภาค โดยจะพบมากในป่าดงดิบ และป่าเบญจพรรณที่ค่อนข้างชื้น บริเวณพุ่มให้หรือต้นไม้ใหญ่ที่มักพบเป็นเถาสีเขียวเข้มพาดเลื้อยตามต้นไม้อื่น

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น
บอระเพ็ดเป็นไม้เถาเนื้ออ่อน ขนาดเถา 1-1.5 เซนติเมตร และยาวได้มากกว่า 10 เมตร เถามีผิวตะปุ่มตะป่ำเป็นตุ่มนูนทั่วเถา และมีรากอากาศคล้ายเส้นเชือดขนาดเล็ก และยาวแทงออก โดยเฉพาะบริเวณโคนเถา เถามีเปลือกสีเขียวเข้ม เปลือกที่มีอายุมากจะลอกออกเป็นเยื่อบางๆสีเหลือง เมื่อกรีดเถาจะมีน้ำยางสีเหลืองไหลออกมา เนื้อด้านในหรือแก่นมีสีเหลือง มีรสขมจัด

เถาบอระเพ็ด

ใบ
ใบบอระเพ็ด เป็นพืชใบเลี้ยงคู่ แตกออกเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับกันบนลำต้นหรือเถา ใบมีรูปไข่ มีฐานใบเป็นรูปหัวใจที่เว้าตรงกลาง คล้ายใบพลู แผ่น และขอบใบเรียบ แผ่นใบบาง และอ่อนนุ่ม ฉีกขาดได้ง่าย ปลายใบมีหยัก แผ่นใบมีเส้นใบสีเหลืองลากผ่านจากโคนใบไปขอบใบ 5-7 เส้น ใบอ่อนมีสีเขียวอ่อน เมื่อใบมีอายุมากจะมีสีเขียวเข้ม และมีขนปกคลุมห่างๆ ส่วนท้องใบจะมีสีเขียวนวล

ใบบอระเพ็ด

ดอก
ดอกบอระเพ็ดแทงออกเป็นช่อ ตามซอกใบ ช่อยาว 5-20 เซนติเมตร ดอกเป็นดอกแยกเพศ แต่อยู่ในก้านช่อดอกเดียวกัน ดอกมีขนาดเล็ก ประกอบด้วยกลีบรองดอก 6 กลีบ และกลีบดอกสีเหลืองอ่อน 6 กลีบ ส่วนตรงกลางเป็นเกสรตัวเมียสีขาว และเกสรตัวผู้ 6 อัน

ดอกบอระเพ็ด

ผล และเมล็ด
ผลบอระเพ็ดมีลักษณะกลมรี มีเปลือกบางๆหุ้มผล ผลอ่อนมีสีเขียว และเมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง

ลูกบอระเพ็ด

ประโยชน์บอระเพ็ด
1. ทุกส่วนของบอระเพ็ดใช้เป็นส่วนผสมของตำรับยารักษาโรค
2. น้ำสกัดหรือน้ำต้มจากบอระเพ็ดใช้ฉีดพ่นกำจัด และป้องกันหนอนแมลงศัตรูพืช อาทิ หนอนใยผัก และเพลี้ยต่างๆ เป็นต้น
3. ลำต้น และใบใช้ผสมในอาหารสัตว์หรือให้สัตว์กินโยตรง เพื่อให้สัตว์มีร่างกายแข็งแรง และรักษาโรคในสัตว์ ทั้งโค กระบือ สุกร ไก่ และอื่น ซึ่งชาวบ้านนิยมให้ไก่ชนกินในระยะก่อนออกชน
4. ลำตัน และใบนำมาบด และใช้พอกศรีษะหรือสระผม สำหรับกำจัดเหา

สาระสำคัญที่พบ
– Picroretin เป็นสารที่ให้รสขมหลัก
– Phytosterol
– Tinosporan
– Columbin
– Tinoluberide
– Borapetoside A และ B
– Borapetol A
– Tinocrisposide
– N-formylannonaine
– N-acetylnornuciferine
-galactans
-pentosans
-methylpentosan

ที่มา : 1), 2) อ้างถึงในเอกสารหลายฉบับ

สรรพคุณบอระเพ็ด
ทุกส่วนของบอระเพ็ดจะให้รสขม แต่จะขมมากในเถา รองลงมาเป็นใบ ดอก และราก ซึ่งมีสรรพคุณหลายด้าน อาทิ
การรับประทานหรือต้มดื่ม
– ช่วยลดไข้ บรรเทาอาการปวดหัว ตัวร้อน
– ลดอาการไอ และขับเสมหะ
– รักษาไข้จับสั่น
– ลดอาการคันคอ แก้ลำคออักเสบ
– แก้กระหายน้ำ
– ช่วยเพิ่มความดันเลือด
– รักษาโรคติดเชื้อในทางเดินหายใจ
– แก้โรคฟันผุ แก้อาการปวดฟัน
– ใช้รักษาโรคติดเชื้อในกระแสเลือด
– รักษาโรคปากเท้าเปื่อย
– ลดอาการกล้ามเนื้อเกร็ง กล้ามเนื้อกระตุก
– บำรุงร่างกาย ช่วยเจริญอาหาร
– แก้อาการร้อนใน
– รักษาอาการช้ำใน
– ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
– ลดระดับน้ำตาลในเลือด
– ป้องกันโรคหัวใจ
– ป้องกันโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต
– บรรเทาอาการโรคเบาหวาน
– กระตุ้นการหลั่งอินซูลิน
– ป้องกันโรคเบาหวาน
– ช่วยขับเหงื่อ
– แก้อาการท้องอืด
– แก้โรคท้องเสีย
– รักษาอาการอุจจาระเป็นเลือด
– รักษาฝีภายใน ฝีมดลูก
– รักษาโรคหนองใน
– ช่วยขับพยาธิ

การใช้ภายนอก
– ทุกส่วนนำมาบดสำหรับฟอกรักษาฝี
– ใช้ประคบแผลเพื่อห้ามเลือด
– ใช้ประคบรักษาแผล ลดน้ำหนอง ลดอาการปวดบวม
– นำมาต้มน้ำอาบสำหรับรักษาโรคผิวหนัง
– รักษาแผลในปาก ปากเปื่อย ปากเป็นแผล
– ใช้ประคบแผลไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก ช่วยลดอาการแสบร้อน
– ใช้ประคบแผลถูกกัดจากแมลงมีพิษ สำหรับลดพิษ ลดอาการบวมปวด

ที่มา : 1), 3) อ้างถึงในเอกสารหลายฉบับ

เถาแห้งบอระเพ็ด

ฤทธิ์สำคัญทางยาที่พบ
– กระตุ้นภูมิคุ้มกัน
– ต้านการอักเสบ
– ต้านเชื้อจุลินทรีย์
– ต้านอนุมูลอิสระ
– ฤทธิ์ป้องกันมะเร็งตับ
– ลดไขมันในเส้นเลือด
– กระตุ้นกล้ามเนื้อเรียบ
– กระตุ้นการเต้นของหัวใจ

เพิ่มเติมจาก : 3)

ความเป็นพิษ
การศึกษาใช้สารสกัดจากบอระเพ็ดให้แก่หนูขาว ขนาดเข้มข้น 1.28 กรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม หรือประมาณ 9.26 กรัม ของผงบอระเพ็ดแห้ง เป็นเวลานาน 6 เดือน พบว่า ค่าทางโลหิตวิทยาของหนูขาวไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ทั้งนี้ พบรายงานหลายฉบับที่รายงานว่า การรับประทานบอระเพ็ดปริมาณมากหรือติดต่อกันนาน อาจจะทำให้เกิดสภาพความเป็นพิษต่อไต และตับได้ อาจเนื่องจาก อวัยวะเหล่านี้จะต้องขับ และกำจัดสารหรือเกิดการสะสมของสารต่างๆไว้มาก

ที่มา : 4)

ตำรับยาบอระเพ็ดสำหรับสัตว์
สูตร1
• ส่วนผสม : บอระเพ็ด เกลือ และน้ำซาวข้าว
• วิธีปรุงยา : ใช้เถาบอระเพ็ด ยาว 1 เมตร ประมาณ 2 เครือ นำมาตัดเป็นชิ้นเล็กๆประมาณ 1 นิ้ว ก่อนจะทุบให้แตก หลังจากนั้น นำมาผสมกับน้ำซาวข้าว และเกลือ พร้อมหมักในถังทิ้งไว้ 7 วัน
• การใช้ : นำน้ำหมักมากรอกให้สัตว์กินหรือใส่รวมกับน้ำดื่มของสัตว์ ช่วยให้สัตว์กินอาหารได้ดีขึ้น ช่วยให้ขนเป็นมันวาว และร่างกายแข็งแรง รวมถึงช่วยในการถ่ายพยาธิ

สูตร2
• ส่วนผสม : บอระเพ็ด ผลมะเกลือ และน้ำซาวข้าว
• วิธีปรุงยา : ใช้เถาบอระเพ็ด ตามสูตรที่1 ตัดเป็นชิ้น และทุบให้แตก ร่วมกับผลมะเกลือ 10 ผล พร้อมทุบให้แตก ก่อนผสมรวมกับน้ำซาวข้าว 10 ลิตร และหมักในถังทิ้งไว้นาน 7 วัน
• การใช้ : กรองแยกน้ำหมัก และนำมากรอกให้สัตว์กินหรือเทราดผสมในอาหารสัตว์ สำหรับกระตุ้นการกินอาหาร และช่วยขับพยาธิ

สูตร3
ส่วนผสม : บอระเพ็ด หญ้าแห้วหมู และรากหญ้าคา
วิธีปรุงยา : ใช้บอระเพ็ดยาว 1 เมตร ประมาณ 10 อัน พร้อมตัด และทุบให้ละเอียด ก่อนผสมรวมกับหญ้าแห้วหมู และรากหญ้าคา 2 กำมือ ที่ตำบดละเอียด และนำมาหมักกับยูเรีย 1 หยิบมือ โดยเติมน้ำประมาณ 20 ลิตร แล้วหมักทิ้งไว้นาน 10 วัน
การใช้ : กรองแยกน้ำ แล้วนำมากรอกให้สัตว์ หรือ เทใส่รางน้ำ จะช่วยแก้ท้องอืด ช่วยให้สัตว์กินอาหารได้ดี โดยเฉพาะสัตว์ประเภทกินหญ้า รวมถึงช่วยในการถ่ายพยาธิได้ด้วย

สูตร4
• ส่วนผสม : บอระเพ็ด กากน้ำตาล และหัวเชื้อ EM
• วิธีปรุงยา : ใช้เถาบอระเพ็ด ยาว 1 เมตร ประมาณ 10 เครือ นำมาตัดเป็นชิ้น และทุบให้แตก พร้อมใช้ผสมกับกากน้ำตาลครึ่งลิตร และหัวเชื้อ EM 1 ซอง พร้อมเติมน้ำ 5-20 ลิตร หมักในถังนาน 20-30 วัน
• การใช้ : กรองแยกน้ำหมัก และนำน้ำหมักมาผสมน้ำประมาณ 20 ลิตร ก่อนนำไปใช้ราดอาบตัวสัตว์ ช่วยให้ร่างกายสัตว์สะอาด รักษาโรคผิวหนัง ป้องกันเหลือบยุงกัด รักษาแผลตามร่างกาย ลดกลิ่นสาบตามลำตัว รวมถึงขนเป็นมันวาว

การปลูกบอระเพ็ด
การปลูกบอระเพ็ดสามารถปลูกได้ 2 วิธี คือ การเพาะเมล็ด และการปักชำกิ่ง

การเพาะเมล็ดนั้นจะต้องใช้เมล็ดจากผลที่สุกจัด ผลมีสีเหลืองเข้ม ยิ่งเป็นผลที่ร่วงแล้วยิ่งดี จากนั้น นำผลมาตากแดดให้แห้ง นาน 15-20 วัน และเก็บไว้ในร่มก่อนจนถึงต้นฤดูฝนจึงนำออกมาเพาะในถุงเพาะชำหรือใช้หยอดปลูกตามจุดที่ต้องการ การปลูกด้วยเมล็ดนี้ จะได้เครือบอระเพ็ดที่ใหญ่ยาวมากกว่าการปักชำ

การปักชำเถา เป็นวิธีหนึ่งที่สะดวกรวดเร็ว ด้วยการตัดเถาบอระเพ็ดที่แก่จัด เถามีอายุตั้งแต่ 1 ปี ขึ้นไป ตัดเถายาว 20-30 เซนติเมตร หลังจากนั้น ค่อยนำลงปักชำในถุงหรือกระถาง วิธีนี้ จะได้ต้นที่งอกใหม่ภายใน 15-30 วัน แต่ลำต้นมักมีเครือไม่ยาวเหมือนการเพาะเมล็ด แต่ไม่แตกต่างกันมากนัก

เอกสารอ้างอิง
Untitled